สถานการณ์แรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ไตรมาส 1 ปี 2564 (มกราคม – มีนาคม 2564)

  บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงาน  ไตรมาส 1 ปี 2564 (มกราคม – มีนาคม) มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

สภาพเศรษฐกิจของจังหวัดฉะเชิงเทรา
           เศรษฐกิจจังหวัดฉะเชิงเทรา ไตรมาส 1 ปี 2564 อุตสาหกรรมที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) การผลิต (ร้อยละ 70.78 ของ GGP) 2) การขายส่ง ขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ฯ (ร้อยละ 12.28 ของ GGP) 3) การขนส่ง สถานที่เก็บสินค้า (ร้อยละ 2.91 ของ GGP) ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศเดือนมีนาคม 2564 เท่ากับ 99.11 สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เท่ากับ 98.88 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2563 ลดลงร้อยละ 0.08 การจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ มีจำนวน 174 ราย ทุนจดทะเบียน 263.10 ล้านบาท อุตสาหกรรมที่มีทุนจดทะเบียนสูงสุด คือ การขายส่ง ขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ฯ ในส่วนการจดทะเบียนโรงงานจัดตั้งใหม่ พบว่า มีจำนวน 35 ราย สามารถเพิ่มแรงงานได้ 693 คน

สถานการณ์ด้านแรงงานของจังหวัดฉะเชิงเทรา 

           ประชากรวัยแรงงาน รายปี 2563 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีประชากรที่อยู่ในวัยแรงงานหรือผู้ที่มี     อายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 687,579 คน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 449,226 คน ประกอบด้วยผู้มีงานทำ 442,690 คน ผู้ว่างงาน 6,381 คน และผู้รอฤดูกาล 155 คน และเป็นผู้อยู่นอกกำลังแรงงาน 238,353 คน  จากการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากรในจังหวัดฉะเชิงเทราของสำนักงานสถิติจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า

              การมีงานทำ  ผู้มีงานทำในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 442,690 คน (ร้อยละ 98.54) ผู้มีงานทำในภาคเกษตร จำนวน 117,560 คน (ร้อยละ 26.56) ทำงานนอกภาคเกษตร โดยทำงานในสาขาการผลิต จำนวน 142,305 คน  (ร้อยละ 32.15) รองลงมา คือ การขายส่ง ขายปลีก ซ่อมแซมยานยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 64,095 คน (ร้อยละ14.48) และผู้มีงานทำส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 103,579 คน (ร้อยละ 23.40) 

                             การว่างงาน  จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้ว่างงาน จำนวน 6,381 คน หรือมีอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.42 แยกเป็นชาย จำนวน 3,669 คน หญิง จำนวน 2,712 คน

           แรงงานนอกระบบ ปี2563 พบว่าผู้มีงานทำอยู่ในแรงงานนอกระบบ จำนวน 185,367 คน (ร้อยละ 41.96 ของผู้มีงานทำ) เมื่อพิจารณาจำแนกตามประเภทอุตสาหกรรม พบว่าเป็นแรงงานนอกระบบ  ในภาคการเกษตร ได้แก่ เกษตรกรรม การล่าสัตว์และป่าไม้ จำนวน 96,588 คน (ร้อยละ 52.11) นอกภาคการเกษตร จำนวน 88,779 คน (ร้อยละ 47.89) ส่วนอุตสาหกรรมที่จำนวนแรงงานนอกระบบนอกภาคการเกษตรสูงสุด คือ การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ฯ จำนวน 34,900 คน (ร้อยละ 39.31) สำหรับด้านการศึกษาแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษา จำนวน 62,835 คน (ร้อยละ 33.90)

             จากข้อมูลของสำนักงานจัดหางานจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า

            การบริการจัดหางานในประเทศ  ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 (มกราคม – มีนาคม) นายจ้าง/สถานประกอบการได้แจ้งตำแหน่งงานว่าง จำนวน 2,420 อัตรา โดยมีผู้ลงทะเบียนสมัครงาน 1,188 คน และได้รับการบรรจุงาน 2,082 คน ในส่วนการบรรจุงานจะมีอัตราบรรจุงานต่อตำแหน่งงานว่างร้อยละ 86.03 ส่วนตำแหน่งงานว่างตามระดับการศึกษาที่ต้องการสูงสุด คือ ปวช./ปวส.อนุปริญญา มีความต้องการร้อยละ 45.33 (1,097 อัตรา) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษา ร้อยละ 39.46 (955 อัตรา) และระดับปริญญาตรี ร้อยละ 10.12 (245 อัตรา) ตามลำดับ สำหรับอาชีพที่มีการบรรจุงานมากที่สุด คือ อาชีพงานพื้นฐาน ร้อยละ 91.07 (1,896 อัตรา) และอุตสาหกรรมที่มีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คือ การผลิต ร้อยละ 91.28 (2,209 อัตรา)

            การทำงานของคนต่างด้าว จำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงาน จำนวน 49,695 คน
จำแนกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

1. คนต่างด้าวมาตรา 59 คนต่างด้าวเข้าเมืองชั่วคราว ได้แก่ คนต่างด้าวที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองโดยมิใช่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว หรือผู้เดินทางผ่าน และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จำนวน 1,481 คน
2. คนต่างด้าวมาตรา 59 นำเข้าตาม MOU ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่เข้ามาทำงานตามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต้นทาง จำนวน 19,797 คน
3. 3. คนต่างด้าวมาตรา 59 นำเข้าตาม MOU มติครม. วันที่ 20 สิงหาคม 2562 (OSS)ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา กลุ่มที่มีใบอนุญาตทำงาน (Work Perrmit) จำนวน 20,566 คน
4. คนต่างด้าวมาตรา 61 คนต่างด้าวที่ทำงานจำเป็นเร่งด่วน จำนวน 3 คน
5. คนต่างด้าวมาตรา 62 ประเภทส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้แก่ คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน (พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520) หรือกฎหมายอื่น ได้แก่ พระราชบัญญัตินิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เช่น นักลงทุน ช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการ จำนวน 1,266 คน
6. คนต่างด้าวมาตรา 63/1 ประเภทชนกลุ่มน้อย ได้แก่ คนต่างด้าวที่ไม่ได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ และกระทรวงมหาดไทยได้ออกเอกสารเพื่อรอพิสูจน์สถานะยื่นขอใบอนุญาตทำงาน จำนวน 495 คน
7. 7. คนต่างด้าวมาตรา 63/2 คนต่างด้าวขออนุญาตทำงานตามมติ ครม. วันที่ 4 สิงหาคม 2563 จำนวน 5,009 คน
8. คนต่างด้าวมาตรา 63/2 คนต่างด้าวขออนุญาตทำงานตามมติ ครม. วันที่ 29 ธันวาคม 2563 จำนวน 1,078 คน

          มติ ครม.คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา) จดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ณ ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว (One Stop Service : OSS) จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 45,450 คน จำแนกเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 18,210 คน กัมพูชา จำนวน 23,544 คน ลาว จำนวน 3,696 คน

         แรงงานไทยในต่างประเทศ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้แจ้งความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 12 คน โดยแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับปวช.ปวส.ปวท.อนุปริญญา จำนวน 6 คน (ร้อยละ 50) ส่วนวิธีการเดินทาง พบว่าไปโดยวิธีRe – Entry จำนวน 12 คน (ร้อยละ 70.59) โดยส่วนใหญ่ไปทำงานในภูมิภาคเอเชีย จำนวน 17 คน

         จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานฉะเชิงเทรา พบว่า

         การพัฒนาศักยภาพแรงงาน มีการฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน จำนวน 301 คน โดยกลุ่มอาชีพที่ฝึกยกระดับฝีมือสูงสุด คือ ช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ จำนวน 165 คน มีผู้ผ่านการฝึก จำนวน 132 คน รองลงมาธุรกิจ และบริการ จำนวน 96 คน มีผู้ผ่านการฝึก จำนวน 86 คน และช่างเครื่องกล จำนวน 40 คน มีผู้ผ่านการฝึก จำนวน 30 คน ในส่วนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวน 186 คน โดยเป็นการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในกลุ่มอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ จำนวน 144 คน  มีผู้ผ่านการทดสอบ จำนวน 109 คน รองลงมาเป็นช่างเครื่องกล จำนวน 42 คน มีผู้ผ่านการทดสอบ จำนวน 37คน

         จากข้อมูลของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า

          การคุ้มครองแรงงาน จากการตรวจสถานประกอบการทั้งสิ้น 70 แห่ง มีลูกจ้างผ่านการตรวจ จำนวน 2,069 คน ซึ่งสถานประกอบการที่ตรวจส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบขนาด 10 – 19 คน จำนวน 26 แห่ง  (ร้อยละ 37.14) โดยสถานประกอบการส่วนใญ่ร้อยละ 82.86 (58 แห่ง) ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย

          สถานประกอบการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายมีร้อยละ17.14 และสถานประกอบการขนาด10 – 19 คน มีสัดส่วนการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมากที่สุด คือร้อยละ 41.67 โดยเรื่องที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมากที่สุด คือ เรื่องวันหยุดตามประเพณีมีร้อยละ 58.33 รองลงมา คือเรื่องข้อบังคับในการทำงานมีร้อยละ 25 ประเภทอุตสาหกรรมที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายมากที่สุด คืออุตสาหกรรมโรงแรมและภัตตาคารและ     การผลิตประเภทละ 4 คน

          การตรวจความปลอดภัยในการทำงาน มีการตรวจความปลอดภัยในสถานประกอบการ จำนวน 59 แห่ง ลูกจ้างที่ผ่านการตรวจ จำนวน 2,872 คน พบว่าสถานประกอบการที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายความปลอดภัย จำนวน 34 แห่ง (ร้อยละ 57.63) ปฏิบัตไม่ถูกต้อง จำนวน 25 แห่ง (ร้อยละ 42.37)โดยประเภทอุตสาหกรรมที่มีอัตราการปฏิบัติไม่ถูกต้องมากที่สุด ได้แก่ ประภทการผลิต รองลงมา คือการขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ ฯ ตามลำดับ

การประสบอันตราย/เจ็บป่วยจากการทำงาน ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 จังหวัดฉะเชิงเทรามีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องมาจากการทำงาน จำนวน 402 คน โดยประเภทของความร้ายแรง พบว่า ส่วนใหญ่จะหยุดงานไม่เกิน 1 วัน จำนวน 288 คน (ร้อยละ 71.64) รองลงมาเป็นหยุดงานเกิน 1 วัน จำนวน 109 คน (ร้อยละ 27.11) และตาย จำนวน 5 คน (ร้อยละ 1.24)

            การเกิดข้อเรียกร้อง/ข้อพิพาทแรงงานและข้อขัดแย้งภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2564 มีการแจ้งข้อเรียกร้อง 4 แห่ง 4 ครั้ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1,445 คน สำหรับการเกิดข้อขัดแย้ง/ยุติข้อขัดแย้ง 2 แห่ง 2 ครั้ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 324 คน ซึ่งสามารถตกลงกันได้

            การเลิกจ้างแรงงาน สถานประกอบกิจการในจังหวัดฉะเชิงเทราที่เลิกจ้างมีจำนวน 26 แห่ง ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง 237 คน ส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก 1- 9 คน โดยมีสัดส่วนร้อยละ 92.31 มีลูกจ้างถูกเลิกจ้าง จำนวน 44 คน (ร้อยละ 18.57) โดยประเภทกิจการที่มีการเลิกจ้างสูงสุด คือ ประเภทอื่นๆ จำนวน19 แห่ง (ร้อยละ 73.08) และการค้าเครื่องไฟฟ้า ยานพาหนะ จำนวน 2 แห่ง (ร้อยละ7.69)

           การสวัสดิการ มีการส่งเสริมให้บริการด้านสวัสดิการแรงงานนอกเหนือจากกฎหมายกำหนด 14 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง 1,257 คน

           จากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า

           จังหวัดฉะเชิงเทรา มีสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม จำนวน 5,490 แห่ง ผู้ประกันตนทั้งสิ้น 233,479 คน และมีสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล จำนวน 1 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน จำนวน 2 แห่ง

           กองทุนประกันสังคม จังหวัดฉะเชิงเทรามีการใช้บริการของกองทุนประกันสังคมประเภทประโยชน์ทดแทน ทั้งสิ้น 134,830 คน พิจารณาตามประเภทของสิทธิประโยชน์ ซึ่งมี 7 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และกรณีว่างงาน สำหรับประเภทประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตนใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรกได้แก่ สงเคราะห์บุตร มีผู้ประกันตนใช้บริการ 81,197 ราย รองลงมาได้แก่ เจ็บป่วย 23,094 ราย และชราภาพ 15,769 ราย

           อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรามีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 330 บาทต่อวัน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน

…………………………………..