สถานการณ์แรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ไตรมาส 2 ปี 2564 (เมษายน – มิถุนายน 2564)

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงาน  ไตรมาส 2 ปี 2564 (เมษายน – มิถุนายน) มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

สภาพเศรษฐกิจของจังหวัดฉะเชิงเทรา

           เศรษฐกิจจังหวัดฉะเชิงเทรา ไตรมาส 2 ปี 2564 อุตสาหกรรมที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) การผลิต (ร้อยละ 70.59 ของ GGP) 2) การขายส่ง ขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ฯ (ร้อยละ 13.43 ของ GGP) 3) การขนส่ง สถานที่เก็บสินค้า (ร้อยละ 2.93 ของ GGP) ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศเดือนมิถุนายน 2564 เท่ากับ 101.0 เทียบกับเดือนพฤษภาคม 2564 เท่ากับ 100.4 การจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ มีจำนวน 159 ราย ทุนจดทะเบียน 245.18 ล้านบาท อุตสาหกรรมที่มีทุนจดทะเบียนสูงสุด คือ การขายส่ง ขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ฯ ในส่วนการจดทะเบียนโรงงานจัดตั้งใหม่ พบว่า มีจำนวน 57 ราย สามารถเพิ่มแรงงานได้ 1,518 คน

สถานการณ์ด้านแรงงานของจังหวัดฉะเชิงเทรา  ไตรมาส 2 ปี 2564

            จากการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากรในจังหวัดฉะเชิงเทราของสำนักงานสถิติจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า

           ประชากรวัยแรงงาน ไตรมาส 1 ปี 2564 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีประชากรที่อยู่ในวัยแรงงานหรือผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 694,129 คน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 463,694 คน ประกอบด้วยผู้มีงานทำ 460,383 คน ผู้ว่างงาน 1,953 คน และผู้รอฤดูกาล 1,357 คน และเป็นผู้อยู่นอกกำลังแรงงาน 230,435 คน

              การมีงานทำ  ผู้มีงานทำในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 460,383 คน (ร้อยละ 99.29) ผู้มีงานทำในภาคเกษตร จำนวน 138,002 คน (ร้อยละ 29.98) ทำงานนอกภาคเกษตร โดยทำงานในสาขาการผลิต จำนวน 141,030 คน   (ร้อยละ 30.63) รองลงมา คือ การขายส่ง ขายปลีก ซ่อมแซมยานยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 66,780 คน (ร้อยละ14.51) และผู้มีงานทำส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 159,270 คน (ร้อยละ 22.95) 

                             การว่างงาน  จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้ว่างงาน จำนวน 1,953 คน หรือมีอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.42 แยกเป็นชาย จำนวน 1,953 คน หญิง จำนวน 0 คน และ กำลังแรงงานรอฤดูกาล จำนวน 1,357 คน

           แรงงานนอกระบบ ปี2563 พบว่าผู้มีงานทำอยู่ในแรงงานนอกระบบ จำนวน 185,367 คน (ร้อยละ 41.96 ของผู้มีงานทำ) เมื่อพิจารณาจำแนกตามประเภทอุตสาหกรรม พบว่าเป็นแรงงานนอกระบบ ในภาคการเกษตร ได้แก่ เกษตรกรรม การล่าสัตว์และป่าไม้ จำนวน 96,588 คน (ร้อยละ 52.11) นอกภาคการเกษตร จำนวน 88,779 คน (ร้อยละ 47.89) ส่วนอุตสาหกรรมที่จำนวนแรงงานนอกระบบนอกภาคการเกษตรสูงสุด คือ การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ฯ จำนวน 34,900 คน (ร้อยละ 39.31) สำหรับด้านการศึกษาแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษา จำนวน 62,835 คน (ร้อยละ 33.90)

             จากข้อมูลของสำนักงานจัดหางานจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า

            การบริการจัดหางานในประเทศ  ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 (เมษายน – มิถุนายน) นายจ้าง/สถานประกอบการได้แจ้งตำแหน่งงานว่าง จำนวน 1,259 อัตรา โดยมีผู้ลงทะเบียนสมัครงาน 1,412 คน และได้รับการบรรจุงาน 2,816 คน ในส่วนการบรรจุงานจะมีอัตราบรรจุงานต่อตำแหน่งงานว่างร้อยละ223.67 ส่วนตำแหน่งงานว่างตามระดับการศึกษาที่ต้องการสูงสุดคือระดับมัธยมศึกษา ร้อยละ 37.73 (478 อัตรา) รองลงมาเป็น ปวช./ปวส.อนุปริญญา มีความต้องการร้อยละ 35.82 (451 อัตรา) และระดับปริญญาตรี ร้อยละ 13.19 (166 อัตรา) ตามลำดับ สำหรับอาชีพที่มีการบรรจุงานมากที่สุด คือ อาชีพงานพื้นฐาน ร้อยละ 82.92 (2,335 อัตรา) และอุตสาหกรรมที่มีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คือ การผลิต ร้อยละ 81.41 (1,025 อัตรา)

            การทำงานของคนต่างด้าว จำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงาน จำนวน 54,694 คน
จำแนกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

1. คนต่างด้าวมาตรา 59 คนต่างด้าวเข้าเมืองชั่วคราว ได้แก่ คนต่างด้าวที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองโดยมิใช่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว หรือผู้เดินทางผ่าน และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จำนวน 1,523 คน
2. คนต่างด้าวมาตรา 59 นำเข้าตาม MOU ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่เข้ามาทำงานตามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต้นทาง จำนวน 18,465 คน
3. 3. คนต่างด้าวมาตรา 59 นำเข้าตาม MOU มติครม. วันที่ 20 สิงหาคม 2562 (OSS)ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา กลุ่มที่มีใบอนุญาตทำงาน (Work Perrmit) จำนวน 20,200 คน
4. คนต่างด้าวมาตรา 61 คนต่างด้าวที่ทำงานจำเป็นเร่งด่วน จำนวน 0 คน
5. คนต่างด้าวมาตรา 62 ประเภทส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้แก่ คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน (พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520) หรือกฎหมายอื่น ได้แก่ พระราชบัญญัตินิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เช่น นักลงทุน ช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการ จำนวน 1,305 คน
6. คนต่างด้าวมาตรา 63/1 ประเภทชนกลุ่มน้อย ได้แก่ คนต่างด้าวที่ไม่ได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ และกระทรวงมหาดไทยได้ออกเอกสารเพื่อรอพิสูจน์สถานะยื่นขอใบอนุญาตทำงาน จำนวน 492 คน
7. 7. คนต่างด้าวมาตรา 63/2 คนต่างด้าวขออนุญาตทำงานตามมติ ครม. วันที่ 4 สิงหาคม 2563 จำนวน 4,794 คน
8. คนต่างด้าวมาตรา 63/2 คนต่างด้าวขออนุญาตทำงานตามมติ ครม. วันที่ 29 ธันวาคม 2563 จำนวน 7,915 คน

          มติ ครม.คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา) จดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ณ ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว (One Stop Service : OSS) จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 51,374 คน จำแนกเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 20,648 คน กัมพูชา จำนวน 4,381 คน ลาว จำนวน 26,345 คน

         แรงงานไทยในต่างประเทศ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้แจ้งความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 12 คน โดยแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จำนวน 6 คน (ร้อยละ 50) ส่วนวิธีการเดินทาง พบว่านายจ้างพาไปทำงาน จำนวน 19คน  (ร้อยละ 50) โดยส่วนใหญ่ไปทำงานในภูมิภาคเอเชีย จำนวน 30 คน

         จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานฉะเชิงเทรา พบว่า

         การพัฒนาศักยภาพแรงงาน มีการฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน จำนวน 285 คน โดยกลุ่มอาชีพที่ฝึกยกระดับฝีมือสูงสุด คือ ช่างเครื่องกล จำนวน 163 คน มีผู้ผ่านการฝึก จำนวน 156 คน รองลงมาช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ จำนวน 69 คน มีผู้ผ่านการฝึก จำนวน 62 คน และช่างธุรกิจและบริการ จำนวน 53 คน มีผู้ผ่านการฝึก จำนวน 16 คน ในส่วนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวน 67 คน โดยเป็นการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในกลุ่มอาชีพช่างเครื่องกล จำนวน 45 คน  มีผู้ผ่านการทดสอบ จำนวน 23 คน รองลงมาเป็น ช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ จำนวน 22 คน มีผู้ผ่านการทดสอบ จำนวน 20 คน

         จากข้อมูลของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า

          การคุ้มครองแรงงาน จากการตรวจสถานประกอบการทั้งสิ้น 66 แห่ง มีลูกจ้างผ่านการตรวจ จำนวน 2,941 คน ซึ่งสถานประกอบการที่ตรวจส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบขนาด 20 – 49 คน จำนวน 33 แห่ง  (ร้อยละ 50) โดยสถานประกอบการส่วนใญ่ร้อยละ 93.94 (62 แห่ง) ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย

          สถานประกอบการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายมีร้อยละ 6.06 และสถานประกอบการขนาด         20 – 49 คน มีสัดส่วนการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมากที่สุด จำนวน 4 แห่ง โดยเรื่องที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมากที่สุด คือ เรื่องข้อบังคับในการทำงานมี ร้อยละ 100 ประเภทอุตสาหกรรมที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายมากที่สุด คือ การผลิตประเภท จำนวน 4 คน

          การตรวจความปลอดภัยในการทำงาน มีการตรวจความปลอดภัยในสถานประกอบการ         จำนวน 78 แห่ง ลูกจ้างที่ผ่านการตรวจ จำนวน 3,123 คน พบว่าสถานประกอบการที่ปฏิบัติถูกต้อง         ตามกฎหมายความปลอดภัย จำนวน 71 แห่ง (ร้อยละ 91.03) ปฏิบัตไม่ถูกต้อง จำนวน 7 แห่ง (ร้อยละ 8.97)       โดยประเภทอุตสาหกรรมที่มีอัตราการปฏิบัติไม่ถูกต้องมากที่สุด ได้แก่ ประภทการผลิต รองลงมา คือการขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ ฯ ตามลำดับ

การประสบอันตราย/เจ็บป่วยจากการทำงาน ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 จังหวัดฉะเชิงเทรามีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องมาจากการทำงาน จำนวน 786 คน โดยประเภทของความร้ายแรง  พบว่า ส่วนใหญ่จะหยุดงานไม่เกิน 1 วัน จำนวน 582 คน (ร้อยละ 74.05) รองลงมาเป็นหยุดงานเกิน 1 วัน จำนวน 199 คน (ร้อยละ 25.32) และตาย จำนวน 5 คน (ร้อยละ 0.64)

            การเกิดข้อเรียกร้อง/ข้อพิพาทแรงงานและข้อขัดแย้งภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2564 มีการแจ้งข้อเรียกร้อง 8 แห่ง 8 ครั้ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4,395 คน สำหรับการเกิดข้อยุติ  ข้อเรียกร้อง โดยไม่เกิดข้อพิพาทแรงงานสามารถตกลงกันเอง มีจำนวน 7 แห่ง 7 ครั้ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3,927 คน   

            สำหรับการเกิดข้อพิพาทแรงงานที่เกิดขึ้น จำนวน 1 แห่ง 1 ครั้ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 235 คน โดยพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานสามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาทแรงงานจนยุติได้ภายใน 5 วัน         

            ในส่วนของการเกิดข้อขัดแย้ง มีจำนวน 2 แห่ง 2 ครั้ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 465 คน สามารถตกลงกันเองได้

            การเลิกจ้างแรงงาน สถานประกอบกิจการในจังหวัดฉะเชิงเทราที่เลิกจ้างมีจำนวน 30 แห่ง ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง 1,311 คน ส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก 1- 9 คน โดยมีสัดส่วนร้อยละ 83.33   มีลูกจ้างถูกเลิกจ้าง จำนวน 34 คน (ร้อยละ 2.59) โดยประเภทกิจการที่มีการเลิกจ้างสูงสุด คือ ประเภทอื่นๆ จำนวน 17 แห่ง (ร้อยละ 56.67) รองลงมาเป็นประเภทร้านค้าเบ็ดเตล็ด การค้าอื่นๆ,การก่อสร้าง ประเภทละ 4 แห่ง (ร้อยละ 13.33) และสถาบันการเงิน บริการด้านธุรกิจ จำนวน 3 แห่ง (ร้อยละ10)

           การสวัสดิการ มีการส่งเสริมให้บริการด้านสวัสดิการแรงงานนอกเหนือจากกฎหมายกำหนด 37 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง 5,251 คน

           จากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า

           จังหวัดฉะเชิงเทรา มีสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม จำนวน 5,508 แห่ง ผู้ประกันตนทั้งสิ้น 236,268 คน และมีสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล จำนวน 1 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน จำนวน 2 แห่ง

           กองทุนประกันสังคม จังหวัดฉะเชิงเทรามีการใช้บริการของกองทุนประกันสังคมประเภทประโยชน์ทดแทน ทั้งสิ้น 93,995 คน พิจารณาตามประเภทของสิทธิประโยชน์ ซึ่งมี 7 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และกรณีว่างงาน สำหรับประเภทประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตนใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรกได้แก่ สงเคราะห์บุตร มีผู้ประกันตนใช้บริการ 66,491 ราย รองลงมาได้แก่ว่างงาน 12,169 ราย และเจ็บป่วย 10,7990 ราย

           อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรามีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 330 บาทต่อวัน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน

 …………………………………..

 

                            เล่มสถานการณ์แรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ไตรมาส 2 ปี 2564 (เมษายน – มิถุนายน 2564)