บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงาน ไตรมาส 2 ปี 2560 มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
สภาพเศรษฐกิจ
สำนักงานคลังจังหวัดฉะเชิงเทรา รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในไตรมาส 2 ปี 2560 พบว่าดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP Implicit Price Deflator) ในปี 2558 ลดลงร้อยละ 6.8 เทียบกับการขยายตัว ร้อยละ 11.8 ในปี 2557 โดยดัชนีราคาภาคนอกเกษตรลดลงร้อยละ6.9 เทียบกับการขยายตัวร้อยละ 13.5 ในปี 2557 ส่วนดัชนีราคาภาคเกษตรลดลงร้อยละ 4.7 จากสาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์ และการป่าไม้ที่ลดลง ร้อยละ 10.8 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของเดือนมิถุนายน 2560 ปี 2558 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เท่ากับ 100 เดือนมิถุนายน 2560 เท่ากับ 100.66 เทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 เท่ากับ 100.64 สูงขึ้น ร้อยละ 0.02 ถ้าเทียบเดือนมิถุนายน2559 ลดลง ร้อยละ 0.05 เทียบเฉลี่ย 6 เดือน (มกราคม – มิถุนายน) 2560 กับระยะเดียวกันของปี 2559 สูงขึ้น ร้อยละ 0.67การจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ มีจำนวน 126 ราย
ทุนจดทะเบียน 1711.20 ล้านบาท อุตสาหกรรมที่มีทุนจดทะเบียนสูงสุดคือการขายส่ง ขายปลีกฯ
ในส่วนการจดทะเบียนโรงงานจัดตั้งใหม่ พบว่ามีจำนวน 45 แห่ง ทุนจดทะเบียน 77.30 ล้านบาท
สถานการณ์ด้านแรงงาน
ไตรมาส 2 ปี 2560 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้อยู่ในวัยทำงาน 654,837 คน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 422,466 คน ผู้มีงานทำ 419,846 คน ผู้ว่างงาน 2,620 คน
การมีงานทำ ผู้มีงานทำในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 419,846 คน หรือร้อยละ 99.38 ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน ทำงานในภาคเกษตร จำนวน 96,032 คน หรือร้อยละ 22.87 ทำงานนอกภาคเกษตร จำนวน 323,814 คนหรือร้อยละ 77.13 โดยทำงานในสาขาการผลิตจำนวน 145,993 คน หรือร้อยละ 34.77 รองลงมาคือการขายส่ง ขายปลีก ซ่อมแซมยานยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 57,570 คน หรือร้อยละ 13.71 และผู้มีงานทำส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 108,892 คน หรือร้อยละ 25.94 รองลงมาคือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 92,198 คน หรือร้อยละ 21.96
การว่างงาน จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้ว่างงาน จำนวน 2,620 คน หรือมีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.62
แรงงานนอกระบบ สำหรับแรงงานนอกระบบ พบว่าในปัจจุบันผู้มีงานทำอยู่ในแรงงานนอกระบบ มีจำนวน 180,822 คน คิดเป็นร้อยละ 43.07 ของผู้มีงานทำ เมื่อพิจารณาจำแนกตามประเภทอุตสาหกรรม พบว่าแรงงานนอกระบบในภาคการเกษตร ได้แก่ เกษตรกรรม การล่าสัตว์และป่าไม้ จำนวน 80,488 คนร้อยละ 44.51 ส่วนอุตสาหกรรมที่จำนวนแรงงานนอกระบบนอกภาคเกษตรกรรมสูงสุด คือ 1) การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ ฯ จำนวน 44,610 คน (ร้อยละ 24.67) และแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่การศึกษาอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับประถมศึกษา จำนวน 50,998 คน ร้อยละ 28.20
การบริการจัดหางานในประเทศ ในช่วงไตรมาสที่ 2 (เมษายน – มิถุนายน) ปี 2560 นายจ้าง/สถานประกอบการได้แจ้งตำแหน่งงานว่าง จำนวน 610 อัตรา โดยมีผู้สมัครงาน 757 คน การบรรจุ 788 คน และการบรรจุงานจะมีอัตราบรรจุงาน ต่อตำแหน่งงานว่างร้อยละ 129.18 ส่วนตำแหน่งงานว่างตามระดับการศึกษาที่ต้องการสูงสุดคือ ปวช./ปวส.อนุปริญญา มีความต้องการร้อยละ42.46 (259 อัตรา) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษา ร้อยละ 30.65 (187 อัตรา) และระดับปริญญาตรี ร้อยละ 17.68 (106 อัตรา) ตามลำดับ สำหรับอาชีพที่มีการบรรจุงานมากที่สุด คือ อาชีพงานพื้นฐาน ร้อยละ 77.03 (607 คน) และอุตสาหกรรมที่มีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คือ การผลิต ร้อยละ 59.67 (364 อัตรา)
ความต้องการแรงงานในจังหวัดฉะเชิงเทราปี 2559 คาดประมาณว่าจะมีความต้องการแรงงานในกลุ่มแรงงานฝีมือสูงที่สุด คือ จำนวน 71,697 คน และรองลงมาคือแรงงานไร้ฝีมือ 52,830 คน โดยแรงงาน
ที่ต้องการส่วนใหญ่ต้องการระดับมัธมศึกษาตอนต้น จำนวน 52,221 คน รองลงมาคือระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 30,961 คน อุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานสูงสุด สำหรับการเข้าออกงานลูกจ้างที่ออกจากงาน ปี 2559 มีจำนวน 6,898 คน สาเหตุส่วนใหญ่เพราะลาออก ส่วนลูกจ้างที่เข้างานจำนวน 2,465 เข้างานเนื่องจากทดแทนคนเก่า ส่วนอาชีพที่ขาดแคลนมากที่สุดในจังหวัดฉะเชิงเทราคือ อาชีพการผลิตโลหะและผลิตภัณฑ์ประดิษฐ์ จำนวน 1,224 คน (ร้อยละ 75.46) และอาชีพการขายส่ง ขายปลีก ซ่อมยานยนต์และรถยนต์ จำนวน 113 คน (ร้อยละ 6.97) ระดับการศึกษาที่ขาดแคลนสูงสุดคือระดับ ปวช. จำนวน 87 คน(ร้อยละ 35.66) สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาในจังหวัดพบว่ามีผู้สำเร็จระดับปริญญาตรี จำนวน 45 อัตรา (ร้อยละ 18.44) และระดับปวส. จำนวน 30 อัตรา (ร้อยละ 12.30)
การทำงานของคนต่างด้าว จำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานรวม จำนวน 39,043 คน
จำแนกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้
1.คนต่างด้าวตลอดชีพ ได้แก่ คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานตามประกาศของคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 322 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 จำนวน 0 คน
2.คนต่างด้าวมาตรา 9 ประเภททั่วไป ได้แก่ คนต่างด้าวที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองโดยมิใช่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว หรือผู้เดินทางผ่าน และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จำนวน 1,043 คน
3.คนต่างด้าวมาตรา 9 พิสูจน์สัญชาติ ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมืองได้รับผ่อนผันให้ทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตามมติคณะรัฐมนตรี ได้ผ่านการพิสูจน์สัญชาติและปรับสถานะการเข้าเมืองถูกกฎหมายเรียบร้อยแล้ว จำนวน 3,658 คน
4.คนต่างด้าวมาตรา 9 นำเข้าตาม MOU ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่เข้ามาทำงานตามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทย กับ รัฐบาลประเทศต้นทาง จำนวน 9,555 คน
5.คนต่างด้าวมาตรา 12 ประเภทส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้แก่ คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน (พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520) หรือกฎหมายอื่น ได้แก่ พระราชบัญญัตินิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เช่น นักลงทุน ช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการ จำนวน 1,060 คน
6.คนต่างด้าวมาตรา 13 ประเภทชนกลุ่มน้อย ได้แก่ คนต่างด้าวที่ไม่ได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ และกระทรวงมหาดไทยได้ออกเอกสารเพื่อรอพิสูจน์สถานะยื่นขอใบอนุญาตทำงาน จำนวน 254 คน
7.คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตทำงานตามมติครม.3 สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา) จำนวนทั้งสิ้น 23,473 คน จำแนกเป็นเมียนมา จำนวน 6,713 คน ลาว 1,794 คน กัมพูชา จำนวน 14,966 คน
แรงงานไทยในต่างประเทศ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2560 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้แจ้งความประสงค์
ไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 17 คน โดยแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับประถมศึกษา ส่วนวิธีการเดินทางพบว่า ประเภท Re – Entry จำนวน 37 คน ร้อยละ 74 รองลงมาเป็นนายจ้างพาไปฝึกงาน จำนวน 13 คน ร้อยละ 26 ส่วนภูมิภาคที่แรงงานไทยไปทำงานส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในภูมิภาคเอเชีย จำนวน 37 คน หรือร้อยละ 74 ของแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศทั้งหมด
การพัฒนาศักยภาพ ส่วนการฝึกเตรียมเข้าทำงาน จำนวน 33 คน โดยกลุ่มอาชีพที่มีการฝึกเตรียม เข้าทำงานสูงสุด คือธุรกิจและบริการ จำนวน 20 คน หรือร้อยละ 60.60 รองลงมา คือ ช่างเครื่องกล จำนวน 13 คน หรือร้อยละ 39.39
สำหรับการฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน มีการฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน จำนวน 395 คน โดยกลุ่มอาชีพ ที่ฝึกยกระดับฝีมือสูงสุด คือธุรกิจและบริการ จำนวน 317 คน หรือร้อยละ 80.25 รองลงมาช่างอุสาหกรรมศิลป์ จำนวน 42 คนร้อยละ 10.63 โดยกลุ่มอาชีพทีมีการทดสอบมากที่สุด คือช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ จำนวน 258 คน หรือร้อยละ 197 รองลงมาช่างเครื่องกล จำนวน 21 คน หรือร้อยละ 7.53
ส่วนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ไตรมาส 2 ปี 2560 (เมษายน – มิถุนายน) มีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวนทั้งสิ้น 279 คน พบว่า กลุ่มอาชีพที่มีการทดสอบมากที่สุด คือ ช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ จำนวน 258 คน คิดเป็นร้อยละ 92.47 มีผู้ผ่านการฝึกการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวน 197 คนคิดเป็นร้อยละ 93.36 รองลงมาช่างเครื่องกล จำนวน 21 คน ร้อยละ 7.53 ผู้ผ่านการฝึกการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวน 14 คน ร้อยละ 6.64
การคุ้มครองแรงงาน จากการตรวจสถานประกอบการทั้งสิ้น 98 แห่ง มีลูกจ้างผ่านการตรวจ จำนวน 7,420 คน ซึ่งสถานประกอบการที่ตรวจส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบขนาด 10 – 19 คน ร้อยละ 20.41 (20 แห่ง) โดยสถานประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 88.77 ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย
การตรวจความปลอดภัยในการทำงาน ได้ดำเนินการตรวจความปลอดภัยในสถานประกอบการประเภทอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 60 แห่ง ลูกจ้างที่ผ่านการตรวจทั้งสิ้น 7,540 คน ซึ่งสถานประกอบการที่ผ่านการตรวจมากที่สุดคือสถานประกอบการขนาด 100 – 299 คน จำนวน 31 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 51.67 รองลงมาเป็นสถานประกอบการขนาด 50 – 99 คน จำนวน 7 แห่งคิดเป็นร้อยละ 11.67 และขนาดสถานประกอบการ 1 – 4 คน จำนวน 6 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 10
การประสบอันตราย/เจ็บป่วยจากการทำงาน ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2560 จังหวัดฉะเชิงเทรา
มีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องมาจากการทำงาน จำนวน 570 คน โดยประเภทของความร้ายแรงพบส่วนใหญ่จะหยุดงานไม่เกิน 3 วัน จำนวน 395 คน หรือร้อยละ69.30 รองลงมาเป็นหยุดงานเกิน 3 วัน จำนวน 174 คน หรือร้อยละ 30.53 และตาย จำนวน 1 คน หรือร้อยละ 0.17
การเกิดข้อเรียกร้อง/ข้อพิพาทแรงงานและข้อขัดแย้งภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา มีการแจ้งข้อเรียกร้อง จำนวน 3 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2,501 คน การยุติโดยไม่เกิดข้อพิพาทแรงงานซึ่งสามารถตกลงกันเองได้ จำนวน 2 แห่ง มีลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2,103 คน และ ยังไม่ยุติ จำนวน 1 แห่ง จำนวนลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง 398 คน
การเลิกจ้างแรงงาน สถานประกอบกิจการในจังหวัดฉะเชิงเทรา การเลิกจ้างไตรมาส 2 ปี 2560 (เมษายน – มิถุนายน) มีสถานประกอบการที่เลิกกิจการทั้งสิ้น จำนวน 4 แห่ง เป็นสถานประกอบการ ขนาด 1 – 4 คน จำนวน 3 แห่ง ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง จำนวน 2 คน โดยประเภทกิจการที่มีการเลิกจ้างสูงสุด คือประเภทกิจการอื่นๆ จำนวน 3 แห่ง หรือร้อยละ75
การสวัสดิการ มีการส่งเสริมและให้บริการด้านสวัสดิการแรงงานนอกเหนือจากกฎหมายกำหนดจำนวน 35 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1,926 คน
การประกันสังคม พบว่าจังหวัดฉะเชิงเทรา มีสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม
จำนวน 4,340 แห่ง ผู้ประกันตนทั้งสิ้น 211,942 คน และมีสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล จำนวน 1 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน จำนวน 2 แห่ง
กองทุนประกันสังคม จังหวัดฉะเชิงเทราการใช้บริการของกองทุนประกันสังคมประเภทประโยชน์ทดแทน ทั้งสิ้น 102,539 คน พิจารณาตามประเภทของสิทธิประโยชน์ ซึ่งมี 7 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และกรณีว่างงาน สำหรับประเภทประโยชน์ทดแทนต่างๆที่ผู้ประกันตนใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรกได้แก่ สงเคราะห์บุตร มีผู้ประกันตนใช้บริการ 79,077 ราย รองลงมาได้แก่ กรณีว่างงาน 10,016 ราย และ เจ็บป่วย 6,102 ราย