|
สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงาน ไตรมาส 3 ปี 2560 มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
สภาพเศรษฐกิจภาวะเศรษฐกิจ
|
สำนักงานคลังจังหวัดฉะเชิงเทรา รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในไตรมาส 3 ปี 2560 ณ ราคาประจำปี มีค่าเท่ากับ 236,493 ล้านบาท ลดลงจาก 250,916 ล้านบาท ในปี 2557 เท่ากับ 14,423 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 5.7 โดยผลิตภัณฑ์มวลรมจังหวัดต่อหัว (GPP per capita) ในปี2558 เท่ากับ 305,654 บาท ลดลงจาก 328,553 บาท ในปี 2557เท่ากับ 22,899 บาทหรือลดลงน้อยละ 7.0
ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP Implicit Price Deflator) ในปี 2558 ลดลงร้อยละ 6.8 เทียบกับการขยายตัว ร้อยละ 11.8 ในปี 2557 โดยดัชนีราคาภาคนอกเกษตรลดลงร้อยละ6.9 เทียบกับการขยายตัว ร้อยละ 13.5 ในปี 2557 ส่วนดัชนีราคาภาคเกษตรลดลงร้อยละ 4.7 จากสาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์ และการป่าไม้ที่ลดลงร้อยละ 10.8
ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดฉะเชิงเทรา เท่ากับ 100 และเดือนกันยายน 2560 เท่ากับ 101.2 เทียบกับเดือนสิงหาคม 2560 เท่ากับ 100.9
ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดฉะเชิงเทราเดือนกันยายน 2560
การเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดฉะเชิงเทราเดือนกันยายน 2560 เมื่อเทียบกับ
เดือน สิงหาคม 2560 สูงขึ้น ร้อยละ 0.3
เดือน กันยายน 2559 สูงขึ้น ร้อยละ 1.1
เทียบเฉลี่ย 9 เดือน (มกราคม – กันยายน) 2560 กับระยะเดียวกันของปี 2559 สูงขึ้น ร้อยละ 1.3
การจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ มีจำนวน 153 ราย ทุนจดทะเบียน 422.02 ล้านบาท อุตสาหกรรม มีการจดทะเบียนบุคคลตั้งใหม่มากที่สุด 3 อันดับ คือ การขายส่ง ขายปลีกฯ จำนวน 56 แห่ง หรือร้อยละ 36.60 มีเงินลงทุน 76.20 ล้านบาท รองลงมา การก่อสร้าง จำนวน 26 แห่ง หรือร้อยละ 16.99 มีเงินลงทุน 30.70 ล้านบาท และ การผลิต จำนวน 17 แห่ง หรือร้อยละ 11.11 มีเงินลงทุน 119.70 ล้านบาท การขนส่ง สถานที่เก็บและการคมนาคม จำนวน 17 แห่ง หรือร้อยละ 11.11 มีเงินลงทุน 36.10
ความเคลื่อนไหวการลงทุนอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ ณ เดือนกันยายน 2560 จำนวนทั้งสิ้น 1,767 โรงงาน เงินลงทุนรวม 370,538.09 ล้านบาท และมีจำนวนคนงาน 148,016 คน การลงทุนอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ อุตสาหกรรมขนส่ง จำนวนโรงงาน 143 โรงงาน เงินลงทุน 106,331.74 ล้านบาท คนงาน 31,044 คน รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล จำนวนโรงงาน 77 โรงงาน เงินลงทุน 31,640.73 ล้านบาท คนงาน 3,700 คน และอุตสาหกรรมโลหะ จำนวนโรงงาน 42 โรงงาน เงินลงทุน 25,799.49 ล้านบาท คนงาน 5,408 คน
สถานการณ์ด้านแรงงาน
ไตรมาส 3 ปี 2560 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้อยู่ในวัยทำงาน 657,524 คน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 426,351 คน ผู้มีงานทำ 423,256 คน ผู้ว่างงาน 3,095 คน
การมีงานทำ ผู้มีงานทำในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 423,256 คน หรือร้อยละ 99.27 ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน ทำงานในภาคเกษตร จำนวน 100,361 คน หรือร้อยละ 23.71 ทำงานนอกภาคเกษตร จำนวน 322,895 คนหรือร้อยละ 76.29 โดยทำงานในสาขาการผลิต จำนวน 144,467 คน หรือร้อยละ 34.13 รองลงมาคือการขายส่ง ขายปลีก ซ่อมแซมยานยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 61,523 คน หรือร้อยละ 14.54 และผู้มีงานทำส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 112,307 คน หรือร้อยละ 26.53 รองลงมาคือระดับประถมศึกษา จำนวน 90,888 คน หรือร้อยละ 21.47
การว่างงาน จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้ว่างงาน จำนวน 3,095 คน หรือมีอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.73 เป็นชาย จำนวน 2,871 คน หรือร้อยละ 92.76 หญิง จำนวน 224 คน หรือร้อยละ 7.24
แรงงานนอกระบบ สำหรับแรงงานนอกระบบ พบว่าในปัจจุบันผู้มีงานทำอยู่ในแรงงานนอกระบบ มีจำนวน 180,822 คน คิดเป็นร้อยละ 42.72 ของผู้มีงานทำ เมื่อพิจารณาจำแนกตามประเภทอุตสาหกรรม พบว่าแรงงานนอกระบบในภาคการเกษตร ได้แก่ เกษตรกรรม การล่าสัตว์และป่าไม้ จำนวน 80,488 คนร้อยละ 44.51 ส่วนอุตสาหกรรมที่จำนวนแรงงานนอกระบบนอกภาคเกษตรกรรมสูงสุด คือ 1) การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ ฯ จำนวน 44,610 คน (ร้อยละ 24.67) และแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่การศึกษาอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับประถมศึกษา จำนวน 50,998 คน ร้อยละ 28.20
การบริการจัดหางานในประเทศ ในช่วงไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม – กันยายน) ปี 2560 นายจ้าง/สถานประกอบการได้แจ้งตำแหน่งงานว่าง จำนวน 1,001 อัตรา โดยมีผู้สมัครงาน 1,047 คน การบรรจุ 1,441 คน และการบรรจุงานจะมีอัตราบรรจุงาน ต่อตำแหน่งงานว่างร้อยละ 143.96 ส่วนตำแหน่งงานว่างตามระดับการศึกษาที่ต้องการสูงสุดคือ ปวช./ปวส.อนุปริญญา มีความต้องการร้อยละ52.44 (381 อัตรา) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษา ร้อยละ 34.17 (342 อัตรา) และระดับประถมศึกษาและต่ำกว่า ร้อยละ 20.08 (342 อัตรา) ตามลำดับ สำหรับอาชีพที่มีการบรรจุงานมากที่สุด คือ อาชีพงานพื้นฐาน ร้อยละ 87.16 (1,256 คน) และอุตสาหกรรมที่มีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คือ การผลิต ร้อยละ 73.63 (737 อัตรา)
ความต้องการแรงงานในจังหวัดฉะเชิงเทราปี 2560 การสำรวจข้อมูลของสถานประกอบการใน26 สาขาอุตสาหกรรม จำนวน 840 แห่ง ในปี 2560 พบว่ามีผู้ทำงานรวม ทั้งสิ้น 183,524 คน เป็นชาย 91,571 คน (ร้อยละ 49.90) เป็นหญิง 91,953 คน (ร้อยละ 50.10) ทั้งนี้ ผู้ทำงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานกึ่งฝีมือ 85,616 คน เป็นร้อยละ 46.65 รองลงมาเป็นแรงงานฝีมือ 54,355 คน คิดเป็นร้อยละ 29.62 แรงงานไร้ฝีมือ จำนวน 38,349 คน คิดเป็นร้อยละ 20.90 และผู้เชี่ยวชาญ/ผู้บริหาร 5,204 คน คิดเป็นร้อยละ 2.84 ส่วนผู้มีงานทำทั้งหมดตามระดับการศึกษาที่จบพบว่าในปี 2560 มีผู้ทำงานที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(ม.6) มากที่สุด จำนวน 43,075 คน (ร้อยละ 23.47) รองลงมาได้แก่ระดับ ปวช. จำนวน 41,691 คน (ร้อยละ 22.72) และมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) จำนวน 37,010 คน (ร้อยละ20.13) ทั้งนี้ กลุ่มผู้ทำงานที่จบการศึกษาต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายลงไป ส่วนใหญ่เป็นแรงงานไร้ฝีมือและแรงงานกึ่งฝีมือ ในขณะที่กลุ่มผู้มีงานทำที่จบการศึกษาระดับ ปวช. ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานกึ่งฝีมือและแรงงานฝีมือ
การทำงานของคนต่างด้าว จำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานรวม จำนวน 42,951 คน
จำแนกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้
จำแนกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้
1.คนต่างด้าวตลอดชีพ ได้แก่ คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานตามประกาศของคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 322 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 จำนวน 0 คน
2.คนต่างด้าวมาตรา 9 ประเภททั่วไป ได้แก่ คนต่างด้าวที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองโดยมิใช่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว หรือผู้เดินทางผ่าน และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จำนวน 1,080 คน
3.คนต่างด้าวมาตรา 9 พิสูจน์สัญชาติ ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมืองได้รับผ่อนผันให้ทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตามมติคณะรัฐมนตรี ได้ผ่านการพิสูจน์สัญชาติและปรับสถานะการเข้าเมืองถูกกฎหมายเรียบร้อยแล้ว จำนวน 6,877 คน
3.คนต่างด้าวมาตรา 9 พิสูจน์สัญชาติ ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมืองได้รับผ่อนผันให้ทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตามมติคณะรัฐมนตรี ได้ผ่านการพิสูจน์สัญชาติและปรับสถานะการเข้าเมืองถูกกฎหมายเรียบร้อยแล้ว จำนวน 6,877 คน
4.คนต่างด้าวมาตรา 9 นำเข้าตาม MOU ได้แก่ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่เข้ามาทำงานตามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทย กับ รัฐบาลประเทศต้นทาง จำนวน 11,792 คน
5.คนต่างด้าวมาตรา 12 ประเภทส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้แก่คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน (พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520) หรือกฎหมายอื่น ได้แก่ พระราชบัญญัตินิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เช่น นักลงทุน ช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการ จำนวน 1,047 คน
6.คนต่างด้าวมาตรา 13 ประเภทชนกลุ่มน้อย ได้แก่ คนต่างด้าวที่ไม่ได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ และกระทรวงมหาดไทยได้ออกเอกสารเพื่อรอพิสูจน์สถานะยื่นขอใบอนุญาตทำงาน จำนวน 288 คน
7.คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตทำงานตามมติครม.3 สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา) จำนวนทั้งสิ้น 21,867 คน จำแนกเป็นเมียนมา จำนวน 5,291 คน ลาว 1,727 คน กัมพูชา จำนวน 14,849 คน
แรงงานไทยในต่างประเทศ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้แจ้งความประสงค์
ไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 38 คน โดยแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 17 คน หรือร้อยละ 44.74 ส่วนวิธีการเดินทางพบว่า ประเภท Re – Entry คน ร้อยละ 42.98 (49 คน) รองลงมาเป็นนายจ้างพาทำงาน ร้อยละ 29.82 (34 คน) ส่วนภูมิภาคที่แรงงานไทยไปทำงานส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในภูมิภาคเอเชีย ร้อยละ 72.81 (83 คน) ของแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศทั้งหมด
ไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 38 คน โดยแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 17 คน หรือร้อยละ 44.74 ส่วนวิธีการเดินทางพบว่า ประเภท Re – Entry คน ร้อยละ 42.98 (49 คน) รองลงมาเป็นนายจ้างพาทำงาน ร้อยละ 29.82 (34 คน) ส่วนภูมิภาคที่แรงงานไทยไปทำงานส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในภูมิภาคเอเชีย ร้อยละ 72.81 (83 คน) ของแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศทั้งหมด
การพัฒนาศักยภาพ ส่วนการฝึกเตรียมเข้าทำงาน จำนวน 13 คน โดยกลุ่มอาชีพที่มีการฝึกเตรียม เข้าทำงานสูงสุด คือช่างเครื่องกล จำนวน 13 คน หรือร้อยละ 100 อยู่ระหว่างการฝากฝึก จำนวน 1 คน และอยู่ระหว่างการรอฝากฝึก จำนวน 6 คน
สำหรับการฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน มีการฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน จำนวน 131 คน โดยกลุ่มอาชีพที่ฝึกยกระดับฝีมือสูงสุด คือช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ จำนวน 111 คน หรือร้อยละ 84.73 มีผู้ผ่านการฝึก จำนวน 108 คน ร้อยละ 84.38 รองลงมาช่างกล จำนวน 20 คนร้อยละ 15.27 มีผู้ผ่านการฝึก จำนวน 20 คน ร้อยละ 9.17
ส่วนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ไตรมาส 3 ปี 2560 (กรกฎาคม – กันยายน) มีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวนทั้งสิ้น 224 คน พบว่า กลุ่มอาชีพที่มีการทดสอบมากที่สุด คือ ช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ จำนวน 213 คน คิดเป็นร้อยละ 95.09 มีผู้ผ่านการฝึกการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวน 172 คน คิดเป็นร้อยละ 96.09 รองลงมาเป็นช่างอุตสาหการ จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 4.91 มีผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 3.91
การคุ้มครองแรงงาน จากการตรวจสถานประกอบการทั้งสิ้น 67 แห่ง มีลูกจ้างผ่านการตรวจ จำนวน 2,269 คน ซึ่งสถานประกอบการที่ตรวจส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบขนาด 10 – 19 คน ร้อยละ 31.34 (21 แห่ง) โดยสถานประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 98.51 ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย
การตรวจความปลอดภัยในการทำงาน ได้ดำเนินการตรวจความปลอดภัยในสถานประกอบการประเภทอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 73 แห่ง ลูกจ้างที่ผ่านการตรวจทั้งสิ้น 8,643 คน ซึ่งสถานประกอบการที่ผ่านการตรวจมากที่สุดคือสถานประกอบการขนาด 100 – 299 คน จำนวน 35 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 47.95 รองลงมาเป็นสถานประกอบการขนาด 50 – 99 คน จำนวน 12 แห่งคิดเป็นร้อยละ 16.44 และขนาดสถานประกอบการ 20 – 49 คน จำนวน 11 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 15.07 โดยสถานประกอบการที่ตรวจส่วนใหญ่ร้อยละ100 ปฏิบัติถูกต้องตามกฏหมาย
การประสบอันตราย/เจ็บป่วยจากการทำงาน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 จังหวัดฉะเชิงเทรา
มีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องมาจากการทำงาน จำนวน 649 คน โดยประเภทของความร้ายแรงพบส่วนใหญ่จะหยุดงานไม่เกิน 3 วัน จำนวน 459 คน หรือร้อยละ70.72 รองลงมาเป็นหยุดงานเกิน 3 วัน จำนวน 189 คน หรือร้อยละ 29.12 และตาย จำนวน 1 คน หรือร้อยละ 0.15
มีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องมาจากการทำงาน จำนวน 649 คน โดยประเภทของความร้ายแรงพบส่วนใหญ่จะหยุดงานไม่เกิน 3 วัน จำนวน 459 คน หรือร้อยละ70.72 รองลงมาเป็นหยุดงานเกิน 3 วัน จำนวน 189 คน หรือร้อยละ 29.12 และตาย จำนวน 1 คน หรือร้อยละ 0.15
การเกิดข้อเรียกร้อง/ข้อพิพาทแรงงานและข้อขัดแย้งภายในจังหวัดฉะเชิงเทรามีการแจ้งข้อเรียกร้อง จำนวน 5 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 674 คน การยุติโดยไม่เกิดข้อพิพาทแรงงานซึ่งสามารถตกลงกันเองได้ จำนวน 5 แห่ง มีลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง จำนวน 674 คน
การเลิกจ้างแรงงาน สถานประกอบกิจการในจังหวัดฉะเชิงเทรา การเลิกจ้างไตรมาส 3 ปี 2560 (กรกฎาคม – กันยายน) มีสถานประกอบการที่เลิกกิจการทั้งสิ้น จำนวน 4 แห่ง เป็นสถานประกอบการ ขนาด 1 – 4 คน จำนวน 4 แห่ง ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง จำนวน 5 คน โดยประเภทกิจการที่มีการเลิกจ้างสูงสุด คือประเภทกิจการการผลิตกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษแลการพิมพ์ต่างๆ จำนวน 1 แห่ง หรือร้อยละ25 ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง จำนวน 3 คน หรือร้อยละ 60
การประกันสังคม พบว่าจังหวัดฉะเชิงเทรา มีสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม
จำนวน 2,591 แห่ง ผู้ประกันตนทั้งสิ้น 170,896 คนและมีสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล จำนวน 1 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน จำนวน 2 แห่ง
จำนวน 2,591 แห่ง ผู้ประกันตนทั้งสิ้น 170,896 คนและมีสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล จำนวน 1 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน จำนวน 2 แห่ง
กองทุนประกันสังคม จังหวัดฉะเชิงเทราการใช้บริการของกองทุนประกันสังคมประเภทประโยชน์ทดแทน ทั้งสิ้น 102,667 คน พิจารณาตามประเภทของสิทธิประโยชน์ ซึ่งมี 7 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และกรณีว่างงาน สำหรับประเภทประโยชน์ทดแทนต่างๆที่ผู้ประกันตนใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ สงเคราะห์บุตร มีผู้ประกันตนใช้บริการ 78,654 ราย รองลงมาได้แก่ กรณีเจ็บป่วย 10,118 ราย และว่างงาน 5,828 ราย